ข่าวด่วนลาว - นายกลาว ยอมรับปัญหาในการเก็บและใช้งบประมาณ
นายกรัฐมนตรีลาว ยอมรับว่าการเก็บรายรับและการใช้งบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล ประสบกับปัญหายุ่งยากหลายเรื่อง ซึ่งทำให้การจัดตั้งปฏิบัติไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ท่านทองลุน สีสุลิด นายารัฐมนตรี ลาว แถลงการณ์ ยอมรับว่าการจัดเก็บรายรับ และ การใช้งบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลยังประสบกับปัญหายุ่งยากมากมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะการจัดเก็บรายรับที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการใช้งบประมาณที่ไม่เป็นไปตามแผนการนั้น ได้ส่งผลทำให้การจัดตั้งปฏิบัติแผนการพัฒนาหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลลาว ไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งยังเป็นปัญหาที่รัฐบาลลาว จะต้องเผชิญต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย ถ้าหากว่าไม่มีมาตรการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและมีประสิทธิผลอย่างแท้จริง ดั่งที่ท่านทองลุน ให้การยืนยันว่า
" พวกเรากำลังยืนอยู่ต่อหน้าความต้องการเกินกว่าการสนอง และ รายจ่ายของพวกเราเกินรายรับ เมื่อเป็นเช่นนั้นทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้น แก้ไขปัญหาหนี้สินก็ไม่ทัน จะไม่ให้ขาดทุนได้ยังไง หรือว่า พวกเรากำลังมีทางรั่วมากมาย เกี่ยวกับการจัดเก็บรายรับ รายจ่ายในเวลาที่ผ่านมา พวกเราก็รับรู้เหมือนกันว่า จุดต่างๆที่พวกเราพูดกันมานี้ มันเกิดขึ้น สะสมมาหลายปีพอสมควร แต่ว่าไม่สามารถแก้ไขได้ "
โดยภายใต้สภาพการณ์ดั่งกล่าว ยังทำให้รัฐบาลลาว ต้องปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจลง จาก 7.5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 7.0 - 7.2 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ในช่วง 4 ปี ที่เหลือ ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ระยะ 5 ปี ที่กำลังจัดตั้งปฏบัติในปัจจุบัน และจะยังจัดตั้งปฏบัติต่อไป จนถึงปี 2020 ซึ่งถ้าหากว่าเป็นไปตามการคาดหมายดั่งกล่าว ก็จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของลาว มีมูลค่ารวมมากกว่า 597,682 ตือกีบ ที่คิดเฉลี่ยเป็นรายได้ของประชาชนลาวที่ระดับ 23.82 ล้านกีบ หรือ ประมาณ 2,978 ดอลล่าสหรัฐต่อคน ในปี 2020
แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะบรรลุความคาดหมายดังกล่าวได้อย่างแท้จริงนั้น ก็ต้องใช้เงินไม่น้อยกว่า 173,328 ตือกีบ หรือประมาณ 21,666 ล้านดอลล่าสหรัฐ โดยคิดเป็น 29 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ซึ่งในนี้แบ่งเป็นการลงทุนของรัฐ 21,723 ตือกีบ เงินทุนจากการกู้ยืม และ ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ 33,960 ตือกีบ การลงทุนของเอกชนลาว และต่างประเทศ 79,447 ตือกีบ และเงินทุนจากระบบสินเชื่อ ของธนาคารในประเทศ 38,199 ตือกีบ ตามลำดับ
ก่อนหน้านี้รัฐบาลลาวได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่อัตราเฉลี่ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ในช่วงปี 2016 - 2020 ซึ่งจะทำให้มูลค่า GDP เฉลี่ย เป็นรายได้ของประชาชนลาวได้ถึง 3,100 ดอลล่าสหรัฐ ต่อคน ในปี 2020 หากแต่การที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายดั่งกล่าวได้อย่างแท้จริงนั้นก็จะต้องทำให้ภาคกสิกรรม ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์ ภาคอุตสาหกรรม 9.3 เปอร์เซ็นต์ และภาคบริการ 8.9 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี โดยจะต้องระดมเงินลงทุนให้ได้ถึง 27,000 ล้านดอลล่าสหรัฐ ในตลอดระยะเวลา 5 ปี ดังกล่าว ทั้งยังจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และปริมาณเงินทุนหมุนเวียนให้ได้ตามแผนที่วางไว้อีกด้วย
ทางด้านท่าน ลิเบอ ลิบัวปาว หัวหน้าสถาบันค้นคว้าเศรษฐกิจแห่ง สปป.ลาว ได้คาดหมายว่าเศรษฐกิจของลาว จะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 7.7 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2016 อันเป็นผลจากการขยายตัวทางด้านพลังงานไฟฟ้า และอุตสาหกรรมปรุงแต่ง ส่วนในปี 2017 เศรษฐกิจลาวก็จะยังขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ในอัตราเฉลี่ยถึง 7.9 เปอร์เซ็นต์ อันเป็นผลจากการเติบโตทางด้านบริการและพลังงานไฟฟ้า ในขณะด้านเหมืองแร่ ก็จะลดลง เพราะ การลดลงเรื่อยๆของผลผลิตแร่ธาตุนั้นเอง
ส่วนธนาคารโลกก็รายงานว่า เศรษฐกิจลาว ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.4 เปอร์เซ็นต์ ในแผนการปี 2014-2015 โดยมีสาเหตุมาจากการตกตํ่าลงในภาคการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ และความต้องการสินค้าที่ลดตํ่าลงในทั่วโลก ที่สมทบด้วยการตกตํ่าของการปล่อยสินเชื่อในระบบธนาคารในลาว แต่สภาวะเศรษฐกิจของลาวก็ดีขึ้น ในปี 2016 โดยธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB เสนอรายงานว่า เศรษฐกิจของลาวขยายตัวเพิ่มขึ้น ถึง 7.3 เปอร์เซ็นต์ ในแผนการปี 2015 - 2016 ที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น